นานมาแล้ว มีเจ้าฟ้าองค์หนึ่งชื่อว่า พญากอบ เป็นบุตรท้าวภุชงค์ราชานาคราช ผู้มีบุญญาธิการและมีความเชี่ยวชาญในทุกๆ ด้าน จนพญานาคทั้งเมืองบาดาลต้องสยบ เพราtอำนาจบารมีของพญากอบมีรูปร่างที่ใหญ่มาก กายยาวประมาณ 1 โยขน์ มีเกล็ดขาวดังไข่มุก นัยน์ตาสุกแดง
ครั้นเมื่อท่านโตขึ้นก็ได้เดินทางท่องเที่ยวไปในสถานที่ต่างๆ ตามประสาวัยรุ่น จนกระทั่งได้พบรักกับนางศรีขัน ทั้งสองจึงตกลงปลงใจอยู่ด้วยกัน ไม่นานนักนางศรีขันก็ตั้งครรภ์ พญากอบพยายามหาที่อยู่มีภูมิทัศน์งดงามและปลอดภัยให้กับนางศรีขันเพื่อรอคลอดบุตร และที่นั่นก็คือ “ถ้ำเลเขากอบ” ในปัจจุบัน
โดยพญากอบได้ใช้อิทธิฤทธิ์ของตนเผาผลาญเจาะหินจนเป็นถ้ำที่มีน้ำไหลผ่าน ภายในถ้ำเต็มไปด้วยอัญมณีและมีสัตว์ต่างๆ อาศัยอยู่มากมายหลายชนิด รวมทั้งหินงอกหินย้อยงดงามเหมือนมีชีวิตเป็นรูปทรงต่างๆ สวยดังมรกตหยดน้ำ และเมื่อพญากอบหาที่พักให้กับนางศรีขันได้เรียบร้อยแล้ว ทั้งสองก็สัญญาว่าจะรักกันตลอดไป
แล้วเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อยักษ์หูแกง บิดานางศรีขันได้ตามหาจนพบ ขณะทั้งสองกำลังพลอดรักกันอยู่ในถ้ำยักษ์หูแกงไม่พอใจมากคิดจะฆ่าพญากอบซึ่งเป็นลูกเขย โดยใช้ไฟพ่นใส่ โชคดีที่พญากอบหลบหลีกได้ทัน ทำให้ลูกไฟที่พ่นออกมาไปถูกภูเขาจึงเกิดเป็น “เขาหัวแตก” ขึ้น
ส่วนนางศรีขันตกใจกลัวในการต่อสู้ จึงหนีขึ้นไปอยู่บนหน้าผาเพื่อเฝ้ารอคอยผู้เป็นสามี จนได้ชื่อว่า “ผานางคอย” ทางด้านพญากอบต้องการที่จะแก้แค้นยักษ์หูแกง แต่พอรู้ว่าเป็นพ่อตาของตัวเองก็หนีไปไม่กล้าทำร้าย โดยพญากอบจะซ่อนตัวทุกวิถีทาง เพื่อไม่ให้ยักษ์หูแกงตามหาใด หินพบ ไม่นานหลังจากนั้นนางศรีขันก็ได้คลอดบุตรออกมาเป็นงูจำนวนแปดหมื่นตัว หากเมื่อใดที่พ่อแม่ลูกได้มาพบหน้ากัน ถ้ำก็จะเรื่องรองไปด้วยแสงเพชรนิลจิดา และผู้คนบริวเณนั้นก็จะพบความสุขความเจริญ